การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
1.สามารถเลี้ยงได้ในบริเวณรอบบ้านพักดูแลได้สะดวก
จับบริโภคหรือขายได้ง่าย
2.เลี้ยงได้จำนวนมากใช้พื้นที่เลี้ยงน้อยระยะเวลาของการเลี้ยงสั้น
รุ่นละ 60 - 90 วัน
3.ปลาดุกเป็นปลาที่มีความอดทนมาก
ตายยากสามารถทนต่อสภาวะน้ำเสียได้สูง
4.น้ำทิ้งจากบ่อปลาดุก
มีอินทรีย์สารมากเป็นปุ๋ยน้ำใช้รดพืชผัก ต้นไม้ได้เป็นอย่างดี
การเลือกสถานที่สร้างบ่อควรอยู่ใกล้บ้าน และมีที่ร่มเพียงพอ เพราะปลาดุก ไม่ชอบแสงสว่างมากควรมีแหล่งน้ำที่
สะดวกสำหรับการเปลี่ยนถ่ายเทน้ำ
การสร้างบ่อ
เตรียมพื้นที่ราบเรียบ
พื้นดินที่ต้องอัดแน่นเพื่อสร้างบ่อซีเมนต์อิฐบล๊อคขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร
สูง 0.6 เมตรโดยการเทพื้นซีเมนต์
มีโครงไม้ไผ่ช่วยยึดเกาะเนื้อปูนซีเมนต์ไม่ให้แตกร้าวง่าย และก่ออิฐบล๊อคขึ้นสูง 3
ก้อนโดยรอบ เป็นรูปทรงบ่อสี่เหลี่ยม ตามขนาดที่ได้กำหนดไว้ จะได้บ่อขนาดพื้นที่ 6
ตารางเมตร จุน้ำลึก 60 เซนติเมตร (ราคาวัสดุต่อบ่อไม่คิดค่าแรง ประมาณ 2,500
บาทได้แก่ อิฐบล๊อค 80 ก้อน, ปูน 6 ถุง, ทราย 2 คิว, หินเบอร์ 3/4 1
คิวกางตาข่ายพรางแสง สูงขึ้นไปจากบ่อประมาณ 1-1.5 เมตร
เพื่อสร้างร่มเงาให้กับบ่อปลาดุกปล่อยน้ำเข้าบ่อให้มีระดับความลึก 50 เซนติเมตร
อาจใช้สารจุลินทรีย์ (อีเอ็ม) 2 ช้อนชา กับน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำ 1 ปี๊บ
สาดลงไปที่บ่อ เพื่อให้เกิดน้ำเขียว เป็นอาหารลูกปลา และช่วยไม่ให้น้ำขุ่นเร็ว

อัตราปล่อยปลา ปลาดุกที่เริ่มเลี้ยงควรมีขนาดความยาว 5 - 10 ซ.ม. (ราคาตัวละประมาณ 1
บาท) อัตราการปล่อยลงเลี้ยง 60 ตัว ต่อตารางเมตร หรือ 360 ตัว
ต่อบ่อซีเมนต์อิฐบล็อก ขนาดพื้นที่ 6ตารางเมตรแช่ถุงปลาดุกไว้ในบ่อเลี้ยง 30 นาทีแล้วจึงค่อยๆปล่อยปลาลงบ่อ เพื่อป้องกันลูกปลาช็อคตายปลาดุกที่เริ่มต้นเลี้ยงควรมีขนาดขนาด 5 - 10 เซนติเมตร
ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 60 - 90 วัน/รุ่นควรมีวัสดุ เช่น อิฐบล็อก หรือยางรถยนต์ใส่ในบ่อให้ปลาดุกหลบซ่อน
เพราะเลี้ยงไประยะเวลาหนึ่ง ปลาจะโตไม่เท่ากัน เนื่องจากปลาตัวใหญ่จะรบกวนตัวเล็ก

อาหารและการให้อาหาร
1. อาหารเม็ดสำเร็จรูปลอยน้ำ - ปลาดุกขนาดความยาว 5 - 7
เซนติเมตรให้อาหารปลาดุกรุ่นอายุ 1 เดือน - ปลาดุกขนาดความยาว 7
เซนติเมตรขึ้นไปให้อาหารปลาดุกรุ่นอายุ 2 เดือน การให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปลอยน้ำ
ให้วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ให้ครั้งละน้อยๆ แต่พออิ่ม2. อาหารผสมเองใช้กระดูก
โครงไก่ ไส้ไก่ เศษเนื้อบดละเอียดหรือปลาป่น ผสมรำละเอียดในอัตรา 9 : 1 โดยน้ำหนัก
ปั้นเป็นก้อนขนาดกำมือปั้นให้กินทุกวัน อาหารสดเสริม เช่น เศษปลา ปลวก
แมลงขนาดเล็ก มด ไส้เดือน หอยเชอรี่ ต้มสุก
เป็นต้นการให้อาหารผสมเองที่ปั้นเป็นก้อนให้อาหารในกระบะมี ขอบ
ให้ขอบจากระดับผิวน้ำประมาณ 20 ซ.ม. ให้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ให้ครั้งละน้อยๆ
พออิ่ม
การถ่ายเทน้ำ
ควรถ่ายเทน้ำทุก 15 วัน หรือเวลาที่น้ำเลี้ยงปลามีกลิ่นเหม็น
ควรดูดน้ำจากก้นบ่อ ออกประมาณ 1 ใน 3 ของระดับน้ำในบ่อ (ประมาณ 20 เซนติเมตร)ขณะถ่ายน้ำ ไม่ควรรบกวนให้ปลาดุกตกใจ ถ้าปลาดุกเกิดอาการตกใจ
จะหยุดกินอาหาร
หลายวันน้ำในบ่อปลาดุกที่ถ่ายทิ้งมีอินทรีย์สารมาก เป็นปุ๋ยน้ำ
นำไปรดพืชผักสวนครัวได้ดีระยะเวลาในการเลี้ยงและผลผลิตปลาดุกที่เริ่มเลี้ยงขนาดความยาว 5 - 10 เซนติเมตรปล่อยเลี้ยง 360
ตัว/บ่อ ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 60 - 90 วันผลผลิตจากการเลี้ยง ประมาณ 40 - 60 กิโลกรัม ต่อรุ่นต่อบ่อขนาด 6
ตารางเมตร (ขนาดปลาดุก 7 - 10 ตัว/กิโลกรัม) คิดเป็นมูลค่าปลาดุก 1,600 - 2,400 บาท
ต่อรุ่น ต่อบ่อขนาด 6 ตารางเมตร (ปลาดุกกิโลกรัมละ 40 บาท)
ข้อควรระวัง
1. ไม่ให้อาหารปลาดุกในปริมาณมากจนเกินไป 2. รักษาคุณภาพน้ำให้เหมาะสมอยู่เสมอ
3. ถ่ายเทน้ำในบ่อเลี้ยงปลาบ่อย ๆโรคปลาดุกและการป้องกันรักษาโรคกะโหลกร้าว แก้ไขโดยใช้วิตามินซี 1 กรัม
ผสมในอาหาร 1 กิโลกรัมให้ปลาดุกกินติดต่อกันนาน 15 วัน
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและบาดแผลข้างลำตัว ใช้ยาปฎิชีวนะ
เช่นยาอ๊อกซี่เตทตราซัยคลิน 1 แคปซูล ผสมในอาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินติดต่อกันนาน 7 - 10 วัน
หากมีปลาตาย และมีบาดแผลตามลำตัว
ให้ตักปลาตายออกแล้วนำไปทำลายโดยการเผาหรือฝังและรีบถ่ายเทน้ำในบ่อออกประมาณครึ่งบ่อ
(ถ่ายน้ำออกในระดับลึก 30 เซนติเมตร)

|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น